เมนู

เอกสังขิยเถราปทานที่ 2 (433)



ว่าด้วยผลแห่งการเป่าสังข์เป็นพุทธบูชา



[22] ได้มีการสมโภชไม้มหาโพธิ์ของ
พระผู้มีพระภาคพระนามว่าวิปัสสี มหาชนมา
ประชุมกันบูชาไม้มหาโพธิ์อันอุดม
ไม้มหาโพธิ์ที่ควรบูชาเช่นนี้ ของพระ
ศาสดาพระองค์ใด พระศาสดาพระองค์นั้น จัก
เป็นผู้เว้นจากความเศร้าโศกใหญ่ มีปัญญา เป็น
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
ครั้งนั้น เราถือเอาสังข์มาบำรุงโพธิ์พฤกษ์
เราเป่าสังข์ตลอดวันยังค่ำ ไหว้ไม้มหาโพธิ์อัน
อุดมแล้ว
กรรมที่เราได้ทำในเวลาก่อนจะตาย
ส่งให้เราไปเทวโลก ซากศพของเราตกไปแล้ว
เรารื่นรมย์อยู่ในเทวโลก
นักดนตรีหกหมื่น ยินดี ร่าเริง บันเทิง
บำรุงเราอยู่ทุกเมื่อ นี้เป็นผลของพุทธบูชา
ในกัปที่ 71 เราได้เป็นพระราชาพระ
นามว่าสุทัสสนะ เป็นใหญ่อยู่ในชมพูทวีป มีมหา
สมุทรทั้ง 4 เป็นขอบเขต
ครั้งนั้น นักดนตรี 800 แวดล้อมเรา
ตลอดเวลา เราย่อมเสวยกรรมของตน นี้เป็นผล
ของการบำรุง

เราเข้าถึงกำเนิดใด คือ เทวดาหรือมนุษย์
แม้เรายังอยู่ในครรภ์ของมารดา กลองก็ประคม
อยู่ตลอดเวลา
เพราะอุปัฏฐากพระสัมพุทธเจ้า เราได้
เสวยสมบัติแล้ว เป็นผู้บรรลุบทอันไม่หวั่นไหว
เป็นบทอันเกษมไม่มีมลทิน ไม่ตาย
ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใด
ในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระเอกสังขิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.

จบเอกสังขิยเถราปทาน

ปาฏิหิรสัญญกเถราปทานที่ 3 (433)



ว่าด้วยผลแห่งความเลื่อมใสในปาฏิหาริย์



[23] ครั้งนั้น พระพิชิตมารผู้สมควร
รับเครื่องบูชาพระนามว่าปทุมุตตระ ได้เสด็จเข้า
ไปยังพระนคร พร้อมทั้งภิกษุสงฆ์ผู้มีอินทรีย์อัน
สำรวมแล้ว แสนรูป ขณะนั้นได้มีเสียงสนั่นก้อง